วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

พายุฝนหลงฤดูพัดถล่ม​ ยกหลังคาบ้านลอยไกลกว่า 200 เมตร หลายพื้นที่ไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง

  

พายุฝนหลงฤดู พัดถล่มยกหลังคาบ้านลอยไกลกว่า 200 เมตร หลายพื้้นที่ไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง ชาวบ้านฝากถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ควรเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้
สุรินทร์-วันนี้(3 ก.พ. 65) จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 2 – 3 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นเป็นบางแห่ง โดยภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเป็นบางพื้นที่ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง
และภาคตะวันออกจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้า ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และประชาชนบริเวณภาคเหนือระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่า โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ และชาวเกษตรกร ควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง
ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อค่ำวานนี้ ได้เกิดฝนและลมกระโชกแรงในพื้นที่ตัวเมืองสุรินทร์และพื้นที่ตำบลสลักไดและตำบลแสลงพันธ์ อย่างหนักเพียง 5 นาที โดยลักษณะลมเป็นลมหมุนพร้อมกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้บ้านเรือนของชาวและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ยุ้งข้าว ต้นไม้หัก โดยเฉพาะที่บ้านตะบัล ม.7 คุ้มหนองไซร์ ตำบลสลักได อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ แรงลมหมุนได้พัดเอาหลังคาบ้าน ยุ้งฉางที่เก็บข้าวเปลือก และหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เกือบทั้งหลังปลิวว่อนไปตกตามทุ่งนาโดยเฉพาะบ้านของ ร.ต.อ.ชัยชนะ แสนกล้า ข้าราชการบำนาญ(ตำรวจทางหลวง)เป็นบ้าน 2 ชั้น แรงลมพัดสังกะสีสรรไทหลังคาบ้าน ยกหลุดไปทั้งหลัง ลอยไปตกอยู่กลางทุ่งนาไกลกว่า 200 เมตร ที่นอนและข้าวของในบ้านถูกน้ำฝนเปียกทั้งหมด

ร.ต.อ. ชัยชนะ เล่าว่า เมื่อตอนค่ำวานนี้ ได้เกิดฝนตกลงมาพร้อมกับมีลมหมุนอย่างรุนแรง ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น หลังคาบ้านก็ถูกลมยกหลุดไปทั้งหมด ปลิวลอยไปตกในทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร ข้าวของในบ้านถูกฝนที่เทลงมาเปียกทั้งหมด เกิดขึ้นเร็วมาก ตอนเกิดเหตุตนพาคนในครอบครัวไปหลบอยู่ชั้นล่างของบ้าน โชคดีที่ไม่เป็นอะไร

พายุฝนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นฝนแรกของปี ซึ่งในพื้นที่ตำบลสลักได บ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบเสียหายจากพายุลมแรงที่เกิดขึ้นจำนวน 2 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านตะบัล ม.7และบ้านตะวัน ม.8 รวมประมาณ 30 หลังคาเรือน นอกจากนั้นยังมียุ้งข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ข้าวเปลือกที่เก็บไว้ถูกฝนเปียกทั้งหมด โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ทางผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสลักได ได้เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อประเมินให้การช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่บ้างพื้นที่รอบตัวเมืองสุรินทร์ไฟฟ้าดับ โดยเฉพาะถนนเส้นปัทมานนท์ สายสุรินทร์-จอมพระ บริเวณพื้นที่ตำบลแสลงพันธ์ - เขตลอยต่อตำบลแกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ ไฟฟ้าดับตั้งแต่เวลา19.00 น.ถึง 01.00 น.นานกว่า 6 ชั่วโมง ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ศูนย์พักคอย อตุโล สำราญนิเวศน์ (สาขาวัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ)บ้านอาโพน ต.แสลงพันธ์ ต้องอยู่ด้วยความลำบาก ชาวบ้านในพื้นที่ถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุรินทร์ ว่าควรจะมีมาตรการในการเตรียมความพร้อมมากกว่านี้ ขณะที่เบอร์แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง คือ เบอร์ 044-511044 ก็ไม่สามารถต่อต่อได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าไฟฟ้าก็ได้เร่งตรวจสอบและแก้ไขให้กับชาวบ้านเร่งด่วนแล้ว


Subscribe by Email

Follow Updates Articles from This Blog via Email

No Comments